mungmee-pradee.com=>
พระเครื่อง จ. สมุทรสงคราม ->
เหรียญหลวงพ่อวิไล ปุญญสิริ (พระครูวัตตโกศล) รุ่น 2 วัดโพธิ์งาม จ.สมุทรสงคราม ปี 2523 เนื้อทองแดงผิวไฟสภาพสวยเดิมๆ ประสบการณ์สุดยอดครับ เหรียญที่ 1
| |||||||||
อื่นๆที่คล้ายกัน |
เหรียญหลวงพ่อวิไล ปุญญสิริ (พระครูวัตตโกศล) รุ่น 2 วัดโพธิ์งาม จ.สมุทรสงคราม ปี 2523 เนื้อทองแดงผิวไฟสภาพสวยเดิมๆ ประสบการณ์สุดยอดครับ เหรียญที่ 1
จำนวนผู้เข้าชม : 3360 คน
รายละเอียด
เหรียญหลวงพ่อวิไล ปุญญสิริ (พระครูวัตตโกศล) รุ่น 2 วัดโพธิ์งาม จ.สมุทรสงคราม ปี 2523 เนื้อทองแดงผิวไฟสภาพสวยเดิมๆ ประสบการณ์สุดยอดครับ เหรียญที่ 1 รหัส : 356 ราคา : 1,350 บาท .- ประเภท : พระเครื่อง จ. สมุทรสงคราม เหรียญหลวงพ่อวิไล ปุญญสิริ (พระครูวัตตโกศล) รุ่น 2 วัดโพธิ์งาม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ปี พ.ศ. 2523 เนื้อทองแดงผิวไฟสภาพสวยเดิมๆ ประสบการณ์สุดยอดครับ โดยเหรียญมีขนาดความกว้าง 2.7 ซ.ม. ความสูงถึงหูเหรียญ 3.8 ซ.ม. สนใจพูดคุยกันได้ที่ Line ID : suriyun07 ประวัติหลวงพ่อวิไล ปุญญสิริ (ท่านพระครูวัตตโกศล) ท่านเกิดที่บ้านดอนเซ่ง อำเภอบางแพ จ.ราชบุรี เมื่อปี พ.ศ.2462 ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงตาน้อย และหลวงพ่อแช่ม วันดอนเซ่ง ซึ่งหลวงพ่อทั้ง 2 ท่านเป็นญาติกับหลวงพ่อวิไล หลวงตาน้อยและหลวงพ่อแช่ม วัดดอนเซ่งเป็นที่เคารพนับถือศรัทธาของลูกศิษย์ทั้งหลายและประชาชนทั่วไป หลวงตาน้อยเก่งกล้าทางด้านน้ำมันเบิกฟ้า หรือที่บางคนเรียกว่า "น้ำมันโป" น้ำมันนี้ถ้าทาบริเวณหนังตาแล้วจะสามารถมองเห็นเลย แต่มีข้อแม้ว่า แทงวันนี้กี่ครั้งเอาแค่นี้พอได้ ส่วนทางด้านคงกระพันชาตรีหรือป้องกันภยันอันตราย หรือเมตตามหานิยมนั้น ท่านก็เชี่ยวชาญและเก่งมาก ส่วนหลวงพ่อแช่ม วัดดอนเซ่ง เจ้าอาวาสท่านโด่งดังทางด้าน ตะกรุดใต้น้ำ สมัยนั้นบริเวณด้านวัดดอนเซ่ง มีลำคลองมีแม่น้ำไหลผ่าน มีเรื่องเล่าว่าท่านมักจะเดินไปบริเวณริมคลองด้านหน้าวัด แล้วระเบิดน้ำลงไปใต้น้ำ และทำพิธีม้านตะกรุดเสมอ นอกจากนี้ท่านยังเคยบอกอีกว่าถึงแม้จะไม่มีแม่น้ำก็สามารถใช้ม้านตะกรุดธรรมดาได้เหมือนกัน แต่ขอให้มีสมาธิจิตมั่นอย่างเดียวก็สำเร็จได้ หลวงพ่อวิไลยังได้เรียนวิชาประสานกระดูกหักโดยเอามะพร้าวมาเคี่ยวให้ได้น้ำมัน แล้วเสกคาถากับพลังจิตแล้วใช้ทาผู้คนที่แขน ขาหัก หรือมีอาการช้ำใน ท่านได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อแช่ม วัดดอนเซ่งจนเชี่ยวชาญและยังช่วยหลวงพ่อแช่ม วัดดอนเซ่งรักษาผู้คน ครั้นเมื่ออายุครบบวช ท่านก็อุปสมบทที่วัดดอนเซ่ง ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 1 มี.ค. พ.ศ. 2483 โดยมีหลวงพ่อแช่ม วัดดอนเซ่ง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อโต๊ะ วัดทำนบ เป็นพระกรรมวาจารย์ หลวงพ่ออินทร์ วัดท่าราบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากที่ท่านอุปสมบทแล้วท่านก็ตั้งใจศึกษาพระธรรมสอบได้นักธรรมตรี โท และเอกตามลำดับ หลวงพ่อวิไลท่านเป็นพระที่เคร่งครัดพระธรรมวินัยเป็นอย่างมาก งานด้านพระพุทธศาสนาท่านก็ได้ช่วยเหลืออบรมสั่งสอนพระนวกะตลอดมา นอกจากนี้ยังได้ไปเล่าเรียนวิชากับหลวงพ่อโต๊ะ วัดทำนบ เกี่ยวกับด้านคงกระพันชาตรี ซึ่งสมัยนั้นท่านดังมาก เรียนวิชากับหลวงพ่ออินทร์ วัดท่าราบ ซึ่งเก่งทางด้านเมตตามหานิยม หลังจากเล่าเรียนวิชาต่างๆ จนจบแล้วท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดดอนเซ่งระยะหนึ่ง จากนั้นก็เดินทางไปยังวัดเจริญสุขาราม ซึ่งมีหลวงพ่อเจียง วณฺสโร เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้ขอเล่าเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อเจียงด้วย เนื่องจากหลวงพ่อท่านเก่งกล้าทางด้านคาถาอาคม ทำน้ำมนต์เดือด และสามารถปลุกเสกให้วัตถุมงคลเคลื่อนไหวได้ มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านถูกสอบสวนจากมหาเถระสมาคมเกี่ยวกับด้านอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ และทางด้านหวย แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถเอาความผิดกับท่านได้ หลวงพ่อวิไลเมื่อท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดเจริญสุขาราม ท่านก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ จากหลวงพ่อเจียงจนหมดสิ้น และท่านก็ยังช่วยสอนธรรมะที่วัดเจริญสุขาราม ช่วยด้านการก่อสร้างซ่อมแซมศาสนสถานต่างๆ จนเจริญรุ่งเรือง ต่อมาคณะกรรมการวัดโพธิ์งามได้เดินทางไปติดต่อกับหลวงพ่อเจียง เพื่อขอให้หลวงพ่อวิไลมาเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์งาม เนื่องจากขณะนั้นไม่มีใครที่จะเหมาะสม และอีกอย่างหนึ่งวัดโพธิ์งามในขณะนั้นกำลังทรุดโทรม ศาสนะต่างๆ ต้องซ่อมแซม ท่านมีความรู้ทางช่างพอสมควร ในที่สุดหลวงพ่อเจียงจึงได้ให้หลวงพ่อวิไลไปปกครองดูแลวัดโพธิ์งามตามที่คณะกรรมการวัดขอมา เมื่อหลวงพ่อวิไลได้ปกครองวัดโพธิ์งามแล้วท่านก็ได้ทำการพัฒนาบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมา ด้วยความมุ่งมั่นสละแรงกาย แรงใจ มุ่งพัฒนาอย่างเต็มที่ ทำให้ปัจจุบันวัดโพธิ์งามเป็นวัดที่สวยงามเหมาะแก่การพักผ่อน บริเวณด้านหน้าวัดริมแม่น้ำแม่กลองก็ยังมีฝูงปลาจำนวนมากมายอาศัยอยู่ มีผู้คนเดินทางไปให้อาหารปลาแทบทุกวัน สำหรับหลวงพ่อวิไลนั้นก็จะมีบรรดาศิษยานุศิษย์ และผู้คนที่เคารพนับถือท่านเดินทางไปกราบไหว้ท่านเพื่อขอให้ท่านรดน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล บางรายก็เอารถไปให้ท่านเจิม ฯลฯ บางรายที่ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลของท่าน ส่วนใหญ่ก็จะเดินทางไปหาของดีเกี่ยวกับเหรียญรูปเหมือน ผ้ายันต์ ตะกรุดโทน พระเครื่องหรือวัตถุมงคลของหลวงพ่อวิไลนั้น ท่านไม่ค่อยสร้างบ่อยนัก นานๆ ครั้งถึงจะสร้าง ท่านสร้างพระเครื่องขึ้นมาแต่ละคราวในโอกาสสำคัญ เมื่อเหลือจากการแจกให้ลูกศิษย์ก็จะให้บูชา เหรียญรูปเหมือนของท่านนั้นมีประสบการณ์กล่าวขานกันมาก โดยเฉพาะที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งบางท่านอาจจะได้ยินข่าวกันมาบ้างแล้ว มีชาวบ้านและทหารจำนวนหนึ่งได้เดินทางมาแถวย่านบางคนที และทราบชื่อเสียงและเกียรติประวัติของท่านสมัยครั้งสงครามเวียดนามใต้และลาว เขาเหล่านั้นจึงได้มาเช่าบูชาไปหลายองค์ และได้เอาเหรียญของท่านไปเลี่ยมทองห้อยคอ วันหนึ่งเขาไปธุระ ขณะกำลังกลับบ้านมีวัยรุ่นไม่ถูกกันได้เกิดตะลุมบอนกันขึ้น และได้ใช้ปืนยิง ลูกปืนได้ยิงมาถูกเขาถึงสี่นัดซ้อนแต่ไม่เข้า สร้างความอภินิหารให้แก่เขายิ่งนัก หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้น ผู้คนที่ทราบข่าวต่างก็เดินทางมายังวัดโพธิ์งาม เพื่อขอบูชาจากท่านไปอีกมากมาย ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อวิไลดังมากที่ประจวบคีรีขันธ์ อีกเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นที่ประจวบเหมือนกันแต่เหตุเกิดในตลาด ชาวบ้านได้เกิดมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันถึงขั้นใช้อาวุธทำร้ายกัน โดยอีกฝ่ายมีปืน อีกฝ่ายหนึ่งมีมีดพก ผลปรากฏว่าคนที่มีเหรียญหลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม ห้อยคออยู่ถูกยิงจนล้มกลิ้ง แต่ไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย ท่ามกลางผู้คนที่เห็นเหตุการณ์มากมาย หลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม ท่านได้มรณะภาพรวมสิริอายุ 93 ปี 11 เดือน 25 วัน ประวัติของหลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม และบทความต่างๆ ทางเราขออนุญาตคัดลอกจากนิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ เพื่อเป็นเกียรติคุณแก่หลวงพ่อวิไล ทางเราต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงกับนิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ และบทความพระเครื่อง ประวัติหลวงพ่อวิไล เขียนโดย banprasribetch จากเว็บไซต์ wep-pra.com มา ณ ที่นี้ด้วยครับ เมื่อวันที่ : 2018-10-31 11:49:30 |